กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา แต่งตั้งคณะอนุ กมธ.การศึกษาบุคลากรด้านการส่งเสริมทางการแพทย์ แก้ปัญหาลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ จพว. ทนพ.ที่ทำงานในกลุ่มงานพยาธิวิทยากายวิภาค ประชุมนัดแรกแล้ว ตีกรอบ 180 วัน เปิดรับฟังความเห็น 18 กย.นี้ ที่เชียงใหม่
ตามที่สภาเทคนิคการแพทย์ ได้ประสานกับ ทนพญ.นิลวรรณ เพชระบูรณิน สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการสาธารณสุข เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้นำเรื่องปัญหาลูกจ้างชั่วคราวเทคนิคการแพทย์ และพนักงานราชการ ที่ยังไม่สามารถบรรจุเป็นข้าราชการได้ เข้าพิจารณาในคณะกรรมาธิการ วุฒิสภา ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการสาธารณสุข (กมธ.) วุฒิสภา ได้เตรียมแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการการศึกบุคลากรด้านการส่งเสริมทางการแพทย์ขึ้นมา 1 ชุด เพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ ได้แก่การแก้ปัญหาลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ ให้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ รวมถึงปัญหาเจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ไปเรียนต่อเทคนิคการแพทย์ แต่เปลี่ยนตำแหน่งเป็นเทคนิคการแพทย์ไม่ได้ ตลอดจนเทคนิคการแพทย์ที่ทำงานในกลุ่มงานพยาธิวิทยากายวิภาค แต่ตำแหน่งเป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ด้วย ทั้งนี้ คณะอนุ กมธ. จะพิจารณาแก้ปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้ในวิชาชีพอื่นๆพร้อมกัน ได้แก่ กายภาพบำบัด รังสีการแพทย์ กิจกรรมบำบัด จิตวิทยา เทคโนโลยี่หััวใจ และนักเวชศาสตร์สื่อความหมาย โดยจะร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ทำงานเพื่อปลดล็อกที่เป็นอุปสรรคทำให้บรรจุไม่ได้ คณะอนุ กมธ. จะนัดประชุม ทุกสัปดาห์ ๆละ 1 ครั้ง โดยประชุมนัดแรกแล้วเมื่อ 20 สค.ที่ผ่านมา และจะประชุมนัดต่อไปในวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2552 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ หมายเลข 105 ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 กำหนดกรอบเวลาทำงาน 180 วัน นอกจากนี้ คณะอนุ กมธ. กำหนดจะลงพื้นที่จัดสัมนา เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 18 กันยายน 2552 นี้ด้วย ข่าวคืบหน้า "เมดเทคทูเดย์" จะนำเสนอให้ทราบต่อไป
อนึ่ง เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2552 สภาเทคนิคการแพทย์ โดย รศ.สมชาย วิริยะยุทธกร นายกสภาเทคนิคการแพทย์ ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีใจความโดยสรุปว่า สภาฯ ได้สำรวจข้อมูลลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานราชการในตำแหน่งนักเทคนิคการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่สำเร็จการศึกษา วท.บ (เทคนิคการแพทย์) ของส่วนราชการต่างๆ ทั้งสำนักงานปลัดกระทรวง และกรมอื่นๆ ซึ่งปฏิบัติงานในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการรักษา ติดตาม และดูแลผู้ป่วย มีจำนวนทั้งสิ้น 727 คน คิดเป็นร้อยละ 54.62 ของตำแหน่งนักเทคนิคการแพทย์ที่เป็นข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และสภาฯ ได้กำหนดมาตรฐานวิชาชีพ ระบุให้หัวหน้าห้องปฏิบัติการเป็นนักเทคนิคการแพทย์ มีความรู้ทางวิชาการและวิชาชีพด้านห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ และห้องปฏิบัติการต้องดำเนินการภายใต้การควบคุมดูแล โดยผู้ประกอบวิชาชีพที่มีความรู้ความชำนาญ และประสบการณ์ ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานในระบบสุขภาพเป็นไปอย่างมีคุณภาพมาตรฐานสำหรับประชาชนทุกระดับ และสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน สภาเทคนิคการแพทย์จึงขอให้รัฐมนรตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้โปรดพิจารณาการบรรจุนักเทคนิคการแพทย์เข้าในตำแหน่งข้าราชการเช่นเดียวกับสายวิชาชีพอื่นๆ ด้วย ซึ่งสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีหนังสือตอบรับเมื่อวันที่ 4 สค.ที่ผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น